วันพุธที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Fantastic 4(ต่อ)

Mr. Fantastic (Reed Richards)
อัจฉริยะทางวิทยาศาสตร์ และผู้นำของกลุ่มความสามารถ ของเขาคือเหยียดกายอย่างไม่น่าเชื่อเหมือนยางยืด














Invisible Woman (Susan"Storm Sue) ของภรรยา Reed ที่สามารถแสดงตัวเองให้โปร่งแสงและทำให้ผู้อื่นมองไม่เห็น ว่ากันง่ายๆ ล่องหน
















Human Torch (Storm Johnny), สามารถสร้างเปลวไฟรอบตัวเองกับพวก และบินได้










Thing (Benjamin Jacob"Ben"Grimm)เขาที่ มีคุณสมบัติที่ความแข็งแรงเหนือมนุษย์และความอดทนเนื่องจาก ลักษณะของเนื้อหินของเขา

Fantastic 4

Fantastic Four เป็นสมมติ superhero ทีมปรากฏใน หนังสือการ์ตูน ตีพิมพ์โดย Marvel Comics The group debuted in The Fantastic Four #1 (November 1961), which helped to usher in a new level of verisimilitude in the medium . ในกลุ่ม debuted Fantastic Four # 1 (พ.ย. 1961) ซึ่งช่วยนำในระดับใหม่ของ verisimilitude ใน กลาง The Fantastic Four was the first superhero team created by writer-editor Stan Lee and artist and co-plotter Jack Kirby , who developed a collaborative approach to creating comics with this title that they would use from then on. Fantastic Four superhero เป็นทีมแรกที่สร้างโดยนักเขียนบรรณาธิการ Stan Lee และศิลปินผู้เขียนและ co - Jack Kirby ผู้พัฒนาวิธีการร่วมมือในการสร้างการ์ตูนกับชื่อนี้ว่าจะใช้จากนั้น As the first superhero team title produced by Marvel Comics, it formed a cornerstone of the company's 1960s rise from a small division of a publishing company to a pop-culture conglomerate. เป็นชื่อทีม superhero แรกที่ผลิตโดย Marvel Comics มันเกิดขึ้นสำคัญของ บริษัท ที่ 1960 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากหมวดการประกาศของ บริษัท ที่ pop วัฒนธรรม กลุ่ม The title would go on to showcase the talents of comics creators such as Roy Thomas , John Byrne , Steve Englehart , Walt Simonson , John Buscema , George Perez and Tom DeFalco , and is one of several Marvel titles still in publication since the Silver Age of Comic Books . ชื่อจะไปในที่แสดงความสามารถของผู้สร้างการ์ตูนเช่น Roy Thomas , John เบิ , Steve Englehart , Walt Simonson , John Buscema , George Perez และ Tom DeFalco และเป็นหนึ่งในหลายชื่อ Marvel ยังอยู่ในสิ่งพิมพ์ตั้งแต่ เงินอายุ หนังสือการ์ตูน

The four core individuals traditionally associated with the Fantastic Four, who gained superpowers after exposure to cosmic rays during a scientific mission to outer space, are: Mr. สี่บุคคลหลักที่เกี่ยวข้องกับประเพณี Fantastic Four, ผู้ได้รับ มหาอำนาจ หลังจากเปิดรับ รังสีคอสมิก ในภารกิจทางวิทยาศาสตร์พื้นที่นอกคือ นาย Fantastic (Reed Richards), a scientific genius and the leader of the group, who can stretch his body into incredible lengths and shapes; the Invisible Woman (Susan "Sue" Storm), Reed's wife, who can render herself and others invisible and project powerful force fields; the Human Torch (Johnny Storm), Sue's younger brother, who can generate flames, surround himself with them and fly; and the monstrous Thing (Ben Grimm), their grumpy but benevolent friend, who possesses superhuman strength and endurance due to the nature of his stone-like flesh. Fantastic (Reed Richards), อัจฉริยะทางวิทยาศาสตร์และรูปร่างผู้นำของกลุ่มที่สามารถของเขาเหยียด กายอย่างไม่น่าเชื่อในความยาวและ; Invisible Woman (Susan"Storm Sue) ของภรรยา Reed ที่สามารถแสดงตัวเองและผู้อื่นมองไม่เห็นและโครงการ เขตกำลังพลัง มนุษย์คบเพลิง (Storm Johnny), น้องพี่ชายของสือที่สามารถสร้างเปลวไฟรอบตัวเองกับพวกเขาและบินและมหึมา Thing (Ben Grimm), เพื่อนไม่พอใจ แต่ใจดีของพวกเขาที่มีคุณสมบัติความแข็งแรงเหนือมนุษย์และความอดทนเนื่องจาก ลักษณะของเนื้อหินเหมือนเขา

Since the original four's 1961 introduction, the Fantastic Four have been portrayed as a somewhat dysfunctional yet loving family. ตั้งแต่เดิมสี่ของ 1961 แนะนำ, Fantastic Four ได้ portrayed ครอบครัวรักยัง dysfunctional บ้าง Breaking convention with other comic-book archetypes of the time, they would squabble and hold grudges both deep and petty, and eschew anonymity or secret identities in favor of celebrity status. grudges Breaking ประชุมกับ archetypes หนังสือการ์ตูนอื่น ๆ เวลาที่พวกเขาจะทะเลาะกันและถือทั้งลึกและอนุสิทธิบัตรและหลบหนีหรือ identities เปิดเผยความลับแก่ชื่อเสียงสถานะ The team is also well known for its recurring struggles with characters such as the villainous monarch Doctor Doom , the planet-devouring Galactus , the sea-dwelling prince Namor , the spacefaring Silver Surfer , and the shape-changing alien Skrulls . ทีมงานเป็นที่รู้จักกันดีเกิดขึ้นอีกด้วยสำหรับในการต่อสู้กับตัวอักษรเช่น พระมหากษัตริย์ที่ชั่วช้า Doctor Doom , ดาวเคราะห์ - กลืน Galactus , ทะเลอาศัย - prince Namor , spacefaring Silver Surfer และรูปร่างเปลี่ยนแปลงคนต่างด้าว Skrulls

The Fantastic Four have been adapted into other media , including four animated television series , an aborted 1990s low-budget film , the major motion picture Fantastic Four (2005), and its sequel, Fantastic Four: Rise of the Silver Surfer (2007). Fantastic Four ได้รับการปรับเป็นๆ สื่อ รวมถึงสี่ ชุดโทรทัศน์เคลื่อนไหว , ปี 1990 ฟิล์ม aborted งบประมาณต่ำ , ภาพเคลื่อนไหวใหญ่ Fantastic Four (2005), และบั้นปลายของ, Fantastic Four : Rise ของเงิน Surfer (2007)

หนังsuperhero เรื่องใหม่ อีกเรื่อง


X-Men Origins: Magneto เป็นภาคล่าสุดต่อจาก X-Men Origins: Wolverine จะออกฉายในโรงภาพยนตร์ เร็วๆนี้


X-Men Origins: Magneto เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแม็กนีโต และชาร์ลส ซาเวีย เป็นเรื่องราวของเอริก และชาร์ลส ในวัยหนุ่มมาก

ซาเวียเป็นทหารฝ่ายพันธมิตรที่ปลดแอกค่าย กักกันของนาซี" ซึ่งแม็กนีโตถูกจับไปขังไว้ในภาคแรกของ X-Men

สำหรับ ดาราที่จะมารับบทต่างๆในภาคใหม่นี้ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานข่าวออกมาครับ

X-Men Origins: Magneto จะเริ่มต้นถ่ายทำปีหน้า และเรื่องย่อเล็กๆ น้อยๆ

มี รายงานมาว่า เดวิด โกเยอร์ ผู้เขียนบทสุดดังจาก The Dark Knight และอีกหลายๆ เรื่อง จะเป็นผู้สานต่อเรื่องราวของ X-Men Origins: Magneto ในปีถัดไป!

แม็กนีโตเป็นที่แน่นอนว่าจะมีภาคแยก เพราะภาคแยกของพี่วูล์ฟของเราก็ได้ออกสู่สายตาให้เราได้ชมกันแล้ว แต่ก็ไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องด้วย ผกก. เกวิน ฮู้ด พี่แกก็ไม่เคยกำกับหนังแอ็คชั่นมาก่อน เอ๊ฟเฟ็กต์ที่ได้สร้างขึ้นมา ก็ไม่เข้ากับยุคสมัยเลย สงครามเจ้าแห่งแหวน ที่ออกฉายในปี 2001-2003 ก็ยังทำได้สมจริงกว่าเสียอีก ทำให้เสียงส่วนมากไปในทางลบ ในภาคแยกแม็กนีโตนี้ ผู้แสดงก็คือ เอียน แม็คเคลเลน ที่ลุงเขาก็ได้ฝากเรื่องสงครามแห่งแหวนในบทพ่อมดเทา->ขาวนามว่าแกนดาล์ ฟด้วยเช่นกัน แม็กนีโตคือตัวร้ายของเรื่อง X-Men ถ้าใครได้ดู ก็จะรู้แน่นอน พลังเขาคือควบคุมโลหะทุกอย่างครับ

"ทางค่ายฟ็อกซ์ยังคงคิดที่จะทำ เรื่องราวนี้ต่อไป" โกเยอร์บอกกับ MTV News "แน่นอน พวกเขาต้องการหาคนเขียนบทแม็กนีโตนี้"

"ผมได้รับการติดต่อจากพวก เขา" เขากล่าว "ผมกำลังคิดว่าจะให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไป ผมจะทำมัน"

เพื่อ เป็นการยืนยันมากยิ่งขึ้น สำหรับเรื่องย่อเล็กน้อย Production Weekly ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้มากที่สุดของอุตสาหกรรมฮอลลีวู้ด ได้ยืนยันสิ่งที่ผู้อำนวยการสร้างพูด โดยบอกว่า "ซาเวียเป็นทหารฝ่ายพันธมิตรที่ปลดแอกค่ายกักกันของนาซี" ซึ่งแม็กนีโตถูกจับไปขังไว้ในภาคแรกของ X-Men ที่ ไบรอัน ซิงเกอร์ กำกับครับ

จากเรื่องย่อ คงเป็นไปได้ยากที่ แพทริค สจ๊วร์ต กับ เซอร์ เอียน แม็คเคลเลน จะได้รับบทเด่นในหนัง เพราะพวกเขาต้องการนักแสดงหนุ่มๆ และอนาคตของโครงการน่าจะอยู่ที่ความสำเร็จของ Wolverine

และเมื่อเด วิดได้เสร็จงานจากการเขียนบท Batman 3 และ Flash แล้ว เขาจะกลับมาเขียนบทแม็กนีโตต่อในปีหน้า

สมาชิก Team X-MEN (ต่อ)

Professor X หรือศาสตราจารย์ Charles Xavier เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่มีพลังจิตเข้มแข็งมากที่สุดในโลก

พ่อและแม่ของเขาชื่อ Brian และ Sharon Xavier ครอบครัวมีฐานะค่อนข้างดี ตัว Brian ก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่สังคมนับหน้าถือตา เมื่อพ่อเสียชีวิต แม่แต่งงานกับ Kurt เพื่อนนักวิทยาศาสตร์ของพ่อ และเมื่อพลังจิตของ Charles เริ่มปรากฏ เขารู้ว่า Kurt รักเงินของครอบครัวมากกว่ารักแม่ Charles เป็นนักเรียนที่เก่งทั้งการเรียนและการกีฬา แต่ต่อมาเขาตัดสินใจเลิกเล่นกีฬา เพราะรู้สึกว่าพลังจิตของเขาทำให้ได้เปรียบคู่แข่งขัน เขาพบรักกับเพื่อนนักศึกษาชาวสกอตต์ Moira Kinross ทั้งคู่ตกลงใจแต่งงานกัน แต่โชคร้าย Charles ต้องไปสงคราม ขณะอยู่ในสนามรบ เขาได้รับจดหมายของเลิกความสัมพันธ์จาก Moira เพื่อจะมาแต่งงานกับแฟนเก่า หลังสงคราม Charles เดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก และที่กรุง Cairo เขาเอาชนะมาเฟียอาหรับชื่อ Shadow King การต่อสู้ครั้งนั้นทำให้เขาตัดสินใจอุทิศตัวปกป้องมนุษย์จากมนุษย์ผ่าเหล่า ชั่วร้าย และปกป้องมนุษย์กลายพันธุ์จากการกดขี่ของมนุษย์ปกติ ต่อมาเขาไปเยี่ยมเพื่อนชื่อ Daniel Shomrom ซึ่งเปิดคลินิกรักษาอาการทางใจของเหยื่อที่รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ของนาซีที่เมืองท่า Haifa ในประเทศ Israel และที่นี่เขาได้รู้จักกับ Magneto

การต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาว Lucifer ที่จะมารุกรานโลกส่งผลให้ Charles กระดูกแตกละเอียดกลายเป็นคนพิการนั่งรถเข็นตลอดชีวิต เขาหันมาก่อตั้งโรงเรียน School of Gifted Youngsters สอนเด็กกลายพันธุ์ให้มองโลกในแง่ดีโดยมีทีม X-Men เป็นตัวอย่าง

Rogue
เป็นมนุษย์ผ่าเหล่าที่เรียกพลังเหนือธรรมชาติของตนเองว่าเป็นคำสาป เมื่อใดก็ตามที่เธอแตะต้องใครก็ตาม พลังของเธอจะดูดลมหายใจ ความแข็งแกร่ง และความทรงจำของคนๆนั้นจนหมดสิ้น พลังนี้ทำให้เธอไม่สามารถจับต้องใคร...แม้กระทั่งคนรัก

Rogue เป็นสาวชาวใต้แห่งมลรัฐ Mississippi ครั้งหนึ่งเธอเคยจูบกับเพื่อนชาย Cody Robbins ทันทีที่เนื้อต้องเนื้อ Cody ถูกดูดพลังจนแทบหมดสิ้น เขาสิ้นสติ อยู่ในสภาพโคมา ไม่เคยลืมตานับแต่นั้นเป็นต้นมา นั่นคือครั้งแรกที่ Rogue รับรู้ถึงพลังพิเศษในตัว เมื่อความเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ถูกเปิดเผย เธอตัดสินใจหนีออกจากเมืองที่อยู่ หลังจากนั้นเธอได้พบกับ Mystique ผู้ที่จะกลายเป็นครูฝึกการใช้พลังพิเศษของเธอ และชักนำเธอเข้าสู่ฝ่ายของ Magneto ต่อสู้กับฝ่าย X-Men และในที่สุด เธอก็ย้ายฝั่งมาอยู่กับศาสตราจารย์ Xavier

Rogue เป็นอีกตัวละครหนึ่งในหนังไตรภาค X-Men ที่ประวัติชีวิตถูกบิดให้เบี่ยงเบนจากในหนังสือการ์ตูน

Strom สตอร์มสามารถควบคุม ดินฟ้าอากาศได้
ในกรณีของสตอร์ม จะต้องอธิบายแยก ดังนั้นผมขออธิบายแบบ รวมๆก็แล้วกัน
สตอร์มอาจสามารถที่จะ ควบคุมปัจจัยต่างๆ ที่จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น การทำให้เกิดฝนตก เธอสามารถที่จะควบคุมอุณหภูมิบริเวณนั้นได้ นั่นคือทำให้ ร้อนและเย็นอย่างฉับพลัน ซึ่งจะส่งผลให้ ฝนตก









Wolverine ด้วยโครงกระดูกโลหะ Adamantium และ
การฟื้นตัวที่รวดเร็ววูลฟเวอรีน เกือบจะอมตะ และมีกรงเล็บด้วย
นั่นอาจจะอธิบายได้ว่า เซลล์ของ วูลฟเวอรีนสามารถขยายตัวได้เร็วมาก หลังจากการบาดเจ็บ
ส่วนกรงเล็บนั้น อาจจะเป็นเพราะมีกระดูกที่เกินออกมา และมีกล้ามเนื้อลาย ที่ทำหน้าที่ควบคุมมันให้ เข้า-ออก ได้จากหลังมือของ วูลฟเวอรีน

สมาชิก Team X-MEN


บีสท์ (อังกฤษ: Beast) หรือ เฮนรี "แฮงก์" พี แมคคอย (Henry "Hank" P. McCoy) ตัวละครการ์ตูนจากเอ็กซ์เมน พ่อของเขาทำงานโนโรงงานนิวเคลียร์จึงได้รับสารกัมมันตรังสี อยู่ตลอดเวลา ลูกของเขา จึงได้รับผลกระทบให้ กลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์

บีสท์ เป็นมิวแทนต์ที่ ที่มีสมองปราดเปรื่องระดับอัจฉริยะ แต่ความสามารถในการต่อสู้ของเขาก็ไม่ใช่ย่อยเช่นกัน เขามีพลังแขนและพลังขาที่แกร่งกว่ามนุษย์ธรรมดามาก มีกรงเล็บที่แหลมคมสามารถฉีกศัตรูเป็นชิ้นๆอย่างง่ายดาย เรียกได้ว่า เอาสิงโต 5 ตัว + กอริล่า 5 ตัว + ไอน์สไตน์ 1 คน ก็เท่ากับ บีสท์นั่นเอง





ไซคลอปส์ (อังกฤษ: Cyclops) เป็นชื่อของตัวการ์ตูนในเอกซ์เมน ที่มีชื่อจริงว่า สก็อต ซัมเมอร์ (Scott Summer) พ่อ แม่ ของเขาเสียชีวิต ตั้งแต่ยังเด็ก น้องชายของเขา ได้มีคนใจบุญมารับเป็นบุตรบุญธรรม ส่วนสกอต ต้อง อยู่ ในบ้านเด็กกำพร้า เขาต้องประสบกับมรสุม ตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยพลังพิเศษ ของเขา ที่ พยายาม จะใช้เพื่อนช่วยผุ้คน แต่กลับถูกเข้าใจผิดว่า เขาพยายามจะฆ่า คนที่เขาจะช่วยนั้น

ไซคลอปส์ มีพลังที่จะยิงแสงสีแดงทับทิม ออกมาจากดวงตา โดยร่างกายของเขาเป็นเหมือน แบตเตอรี่ที่ไม่มีวันหมด พลังงานของเขาคือแสงอาทิตย์ และคลี่น รังสีต่างๆ ที่ปกคลุมอยู่บนโลกนี้ เขาประสบอุบัติเหตุ ทำให้สมองได้รับความกระทบกระเทือน จึงไม่สามารถ ควบคุมพลังมหาศาลของเขาได้ จึงต้องไส่แว่นตาพิเศษ เพื่อหักเหแสงตลอดเวลา ซึ่งทำจากคริสตัลทับทิม หรือทับทิมที่ผ่านการเจียรในมาเป็นอย่างดี


Gambit(Remy LeBeau)มีพลังสามารถ อัดพลังงานจลน์ใส่วัตถุและใช้มันเป็นอาวุธซัดศัตรู
พลังงานจลน์คือพลังงาน ของการเคลื่อนของวัตถุ มีทั้งความเร็ว ความเร่ง และมวล
การอัดพลังงานจลน์เข้าสู่วัตถุ คือการ เพิ่มความเร็ว และ ความเร็ว ใส่วัตถุให้ กลายสภาพเป็นพลังงานศักย์(สะสมพลังงานไว้แล้วปล่อยออกมาภายหลัง) ทำให้วัตถุมีกำลังมาก และสามารถเป็นอาวุธที่ทรงอานุภาพหาก ความเร็วและความเร่งเป็น กราฟเฉียง อย่างต่อเนื่อง










Jean Grey เป็นธิดาของ Dr. John กับ Elaine Grey มีพี่สาวชื่อ Sara ทั้งสามคนเป็นมนุษย์ธรรมดา พลังจิตแบบมนุษย์ผ่าเหล่าของเธอแสดงให้เห็นตั้งแต่ตอนอายุ 10 ขวบ เพื่อนสนิทของเธอ Annie Richardson ถูกรถชน ขณะใกล้เสียชีวิต Jean อ่านจิตใจของเพื่อนและพบว่าเต็มไปด้วยความทนทุกข์ทรมานเมื่อกำลังเผชิญหน้า กับความตาย Jean ล้มเจ็บขั้นโคมา นอนนิ่งบนเตียงไม่ไหวติงนาน 3 ปี จนกระทั่งได้ศาสตราจารย์ Charles Xavier มาช่วย อย่างไรก็ตาม ความโศกเศร้าในการที่เพื่อนเสียชีวิตยังติดตาหลอกหลอนเธอตลอดเวลา

แม้จะยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่จนกระทั่งโตเป็นวัยรุ่น แต่ศาสตราจารย์ Xavier ก็แวะเวียนมาฝึกการใช้และควบคุมพลังจิตให้กับเธอเป็นระยะ เธอเริ่มพัฒนาพลังจิตของเธออย่างเป็นเรื่องเป็นราวตั้งแต่อายุ 13 ปี แล้วก็เข้าเรียนที่โรงเรียน School for Gifted Youngsters ของศาสตราจารย์ Xavier และเป็นสมาชิกหญิงคนแรกในทีม X-Men

ว่ากันว่าพลังจิตของ Jean ที่ทั้งอ่านใจ-ควบคุมจิตใจผู้อื่น และบังคับการเคลื่อนไหวของวัตถุ กล้าแข็งในระดับศาสตราจารย์ Xavier

Jean เป็นสาวเนื้อหอมมีผู้ชายมาสนใจไม่น้อย เริ่มแรกก็มี Scott (Cyclops) กับ Warren (Angel) หลังจากนั้นก็มี Wolverine เข้ามาพัวพัน แต่หากถามใจแล้ว Jean ชอบ Scott มากกว่าใคร

Iceman หรือ Bobby Drake เจ้าของพลังเย็น จับต้องสิ่งใดก็กลายเป็นน้ำแข็ง และสามารถปล่อยพลังเย็นออกจากมือ ทำให้สิ่งที่ขวางหน้ากลายเป็นน้ำแข็งในพริบตา Iceman เกิดที่ Port Washington มลรัฐ New York ศาสตราจารย์ Xavier พาเขามาเข้าโรงเรียนตั้งแต่เด็ก Iceman เป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดใน X-Men ทีมแรก















Jubilee มีความสามารถมากมายของยกเด่นๆละกัน คือมีพลังมหาศาล ทำให้วัตถุต่างๆ ระเบิดได้ และหนีจากการตรวงจับของคลื่นพลังจิตได้
พลังมหาศาลเหมือนกับ จักเกอร์นอท ส่วนการทำให้วัตถุระเบิดได้ อาจเกิดจาก การส่งคลื่นความร้อนที่เป็นประจุเล็กๆ จำนวนมากมหาศาล ไปยังวัตถุนั้น และสร้างพลังงานหน่วงทำให้เกิดการ กดดัน วัตถุจึงระเบิดออกมา และสุดท้าย การหลบหลีกจากพลังจิตได้
พลังจิต คือ พลังงานรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีหลักการอย่างไร จะมั่ว(แบบมีหลักการ) ให้ดูในพลังของ Psylocke
ง่ายๆคือ จูบิลี่ สามารถสร้างคลื่นสะท้อนพลังงานของ คลื่นพลังจิต ได้

วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Mutant มนุษย์กลายพันธุ์

จากที่ทราบกันแล้วว่าHero ส่วนใหญ่ของมาร์เวลเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ (Mutant)
เรามาทำความเข้าใจกันว่าMutant คืออะไร

Mutant=มนุษย์กลายพันธุ์
Mutation=การกลายพันธุ์
ซึ่งถ้าเราได้เคยดู X-Men กันมาแล้ว จะได้คำยิน2คำนี้บ่อยมาก เรามาทำความเข้าใจกัน

มนุษย์กลายพันธุ์

สิ่ง มีชีวิตกลายพันธุ์ หรือ มิวแทนท์ (mutant) ซึ่งก่อนหน้านั้นนักพันธุศาสตร์ เรียกว่า"อสูรกาย" ("monster") คือสิ่งมีชีวิตที่มีความเฉพาะเจาะจงของลักษณะทางพันธุกรรม มีอวัยวะพิเศษ หรือมียีนส์ที่แปลกไป โดยพัฒนาหรือส่งผลจากการวิวัฒนาการ หรือการกลายพันธุ์ซึ่งเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ เชิงโครงสร้างภายในดีเอ็นเอของยีนส์ หรือสายพันธุกรรม ส่งผลให้เกิดบุคลิกลักษณะใหม่ ๆ หรือไม่เคยพบเห็นในรุ่นพ่อแม่ ในเชิงชีวภาพหรือลักษณะเฉพาะตัว บุคลิกใหม่ ๆ ที่กลายพันธุ์มาอาจจะยังเป็นปกติหรือไม่ปกติก็ได้ อาจจะไม่ส่งผลเชิงบวกหรือส่งผลในแง่ดี แต่มักจะส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรมเสียมากกว่า โดยมากการกลายพันธุ์ของยีนส์เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และเป็นขั้นตอนการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตรูปแบบหนึ่ง ในมนุษย์จะเรียกว่ามนุษย์ กลายพันธุ์

มีนักวิทยาศาสตร์ และนักพันธุศาสตร์หลายคนเชื่อว่า การกลายพันธุ์ของมนุษย์ เริ่มเกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 17 และเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา สาเหตุของการกลายพันธุ์มีอยู่หลากหลายปัจจัย โดยมาก จะสรุปเอาว่า เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของโลกเป็นพื้นฐานหลัก ประกอบกับที่มนุษย์ได้พัฒนาเทคโนโลยี ทั้งทางการแพทย์ เคมี ชีวภาพ ซึ่งส่งผมข้างเคียงต่อพันธุกรรมมนุษย์ การผลิตยา และให้ยาในปัจจุบัน ที่มีอยู่อย่างแพร่หลาย การใช้ยาบำรุง อาหารสำเร็จรูป อาหารเสริม อันส่งผลต่อระบบเซลล์ ตลอดรายละเอียดด้านพันธุศาสตร์ของมนุษย์ อันส่งผลสู่รุ่นต่อไปในการสืบพันธุ์มนุษย์ การกลายพันธุ์ที่พบบ่อยมากที่สุดคือ มนุษย์เริ่มมีการตั้งครรภ์บุตรจำนวนได้มากกว่า 1-2 สองคน หรือที่เรียกว่า "แฝด" ปัจจุบัน ค้นพบว่า มนุษย์สามารถตั้งครรภ์ และให้กำเนิดบุตร ได้มากถึง 8 ชีวิต ซึ่งนับว่าเป็นการแบ่งแยกเซลล์ ในการสืบพันธุ์ หลังการปฏิสนธิของอสุจิ และรังไข่ ซึ่งโดยมาจะแยกเซลล์ไม่มากถึง 8 เซลล์เช่นนี้ ต่อมาเป็นการกลายพันธุ์ทางด้านจิต เชื่อว่า มนุษย์ทั้งเพศชายและหญิงในปัจจุบัน พบความเบี่ยงเบนทางเพศสูงกว่าในอดีตอย่างมาก ซึ่งถือเป็นการกลายพันธุ์ด้านของเหลวภายในร่างกาย หรือฮอโมนที่กำหนดการรับรู้ต่างๆ ของมนุษย์ การเติบโตของสมองซีกซ้ายและขวา ซึ่งมีส่วนในการตระหนักรับรู้เพศของบุคคล ก็รับผลกระทบด้านการกลายพันธุ์เช่นกัน

ในกลุ่มจำนวนน้อย แต่เป็นกลุ่มที่มีการกลายพันธุ์สูงสุด และยังไม่เป็นที่ยอมรับ แต่ยังคงมีนักวิทยาศาสตร์ และนักพันธุศาสตร์จำนวนหนึ่ง พยายามค้นหาทฤษฎี และหลักฐานมายืนยันความเชื่อ ที่ว่า การกลายพันธุ์ยังส่งผลถึงยีนส์ (จิโนม) มนุษย์ ให้มีความสามารถ (Ability) ที่สูงขึ้นกว่าในวิวัฒนาการในอดีต โดยส่งผลต่อประสาทสัมผัสทั้งห้า ได้แก่ การสัมผัส การรับรส การได้กลิ่น การมองเห็น และการได้ยิน ซึ่งมีการเพิ่มความสามารถมากขึ้น หรือที่เรียกกันว่า "สัมผัสที่หก" โดยแยกออกได้หลายกลุ่ม โดยจะแยกตามสิ่งที่พบได้มากที่สุดดังนี้

- การได้ยินในสิ่งที่บุคคลทั่วไปไม่สามารถได้ยินได้ เช่น คลื่นวิทยุ สัญญาณต่าง ๆ ซึ่งบางครั้งส่งผลต่อจิตใจ ทำให้ต้องมีการบำบัดต่อไป

- การสัมผัส หรือประสาทสัมผัสรวดเร็วสูงกว่าคนปกติ เช่น ความว่องไวต่อสิ่งเร้าที่จะเข้ามาถึงตัวไวกว่าผู้อื่น

- พละกำลัง ณ ที่นี้หมายถึง มีกำลังวังชาสูงกว่าคนปกติ พบมากในกลุ่มอาชญากร และผู้ชาย เพราะการกลายพันธุ์นี้ ส่งผลต่อความก้าวร้าวด้วย

- ความสามารถที่ถูกจัดอยู่ในความเชื่องมงาย ความสามารถนี้ เป็นที่ยอมรับน้อยที่สุด อาทิเช่น เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า (มิใช่เดจาวู)


มีบุคคลหลายคนอ้างว่า พวกเขาสามารถมองเห็นเหตุการณ์่ที่จะเกิดขึ้นได้ โดยผ่านช่องทางแตกต่างกันไป เช่น การฝัน การมีภาพฉับพลันเข้ามา
ตลอดจนการหลับตา แล้วนึกถึง โดยมีผู้อธิบายระดับ (Level) ในการมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าไว้หลักๆ 5 ระดับ
ซึ่งระดับต่ำที่สุด จะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า ได้ไม่เกินสามวัน สูงขึ้นมาจะมองเห็นได้ไม่เกินสองสัปดาห์
ระดับที่สาม จะมองเห็นได้ไม่เกินหนึ่งเดือน อันดับที่สอง จะได้ไม่เกิดสองเดือน ถึงครึ่งปี และระดับสูงสุด จะสามารถควบคุมการมองเห็นได้

ทั้งนี้ การกลายพันธุ์ของมนุษย์ ยังถูกนำไปสร้างเป็นนวนิยายวิทยาศาสตร์
ภาพยนตร์เรื่องสั้น และเรื่องยาว อาทิ X-Men, Heroes เป็นต้น
ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์ และนักพันธุศาสตร์จำนวนไม่มาก มีความเชื่อเรื่องนี้
และพยายามหาหลักฐานมายืนยันอีกด้วย นักพันธุศาสตร์กลุ่มหนึ่ง
เคยอ้างว่าพบเด็กชายวัย 13 ปี ที่สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ด้วยจิต
ต่อมาเขาฆ่าตัวตายในวัน 17
เนื่องจากไม่สามารถควบคุมพลังที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของเขาได้
และเกิดความกลัวอย่างสุดขีด หรือจะเป็นเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่ง
ที่ได้ยินเสียงความถี่ของคลื่นวิทยุ และสัญญาณโทรศัพท์ตลอดเวลา
ซึ่งปัจจุบันเธอสูญเสียการได้ยินไปแล้ว อีกราย เป็นเด็กชายทารก
ที่ทางกลุ่มตั้งชื่อการกลายพันธุ์ประเภทนี้ว่า Regeneration หรือ Heal
ซึ่งเป็นกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์ที่มีเซลล์ที่แข็งแรง
ทำให้พวกเขารักษาตัวเองได้เร็วกว่าบุคคลทั่วไป เช่น
หากพวกเขาได้รับบาดเจ็บจากมีดบาด คนปกติอาจใช้เวลา 1-2 สัปดาห์
กว่าแผลของพวกเขาจะหายเป็นปกติ
แต่มนุษย์กลายพันธุ์กลุ่มนี้อาจหายได้ภายในเวลาไม่ถึง 3 วัน
และไม่ทิ้งรอยแผลเป็น หรือผมยาวเร็วกว่าคนทั่วไป
หรือไม่ว่าจะเป็นการที่มีอายุยืนยาว หรือไม่ค่อยมีโรคภัยเท่าผู้อื่น
หรือสามารถอยู่รอดได้
ในที่ที่มีโรคระบาดโดยตนเองมีภูมิคุ้มกันที่เหลือเชื่อ เป็นต้น

แต่ถึงอย่างไร ก็ยังไม่มีการให้ความสนใจ ในการกลายพันธุ์แบบเหนือธรรมชาติเช่นนี้นัก จึงยังคงไม่มีการศึกษาหรือเผยแพร่ข้อมูลอย่างกว้างขวาง กระนั้น การกลายพันธุ์แบบเหนือธรรมชาติ ก็ยังคงไม่มีให้พบเห็นมากนัก จะพบเห็นได้มาก ก็แต่การกลายพันธุ์ทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็น นิ้วเกิน หรืออวัยวะส่วนอื่นเกิน, บุคคลระบุเพศไม่ได้ (ไม่มีอวัยวะเพศ), มนุษย์เผือก, ผู้หญิงขนดก, ชาย-หญิงที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยขน (Ware wolf) ,ตาสองสี, ผิวทนต่อความร้อน หรือไฟ, มีภูมิคุ้มกันแต่กำเนิด, เด็กหน้าแก่ และอื่นๆ อีกมากมาย


การกลายพันธุ์

การกลาย พันธุ์ หรือ มิวเทชัน (อังกฤษ: mutation) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงสภาพของสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงของยีน ทำให้สิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นมาใหม่มีลักษณะแตกต่างจากกลุ่มปกติ

มิ วเทชันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต

มิวเทชันเป็น ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต 2 ระดับ คือ ระดับโครโมโซม (chromosomal mutation) และระดับยีนหรือโมเลกุล ดีเอ็นเอ (DNA gene mutation)

การ เปลี่ยนแปลงระดับโครโมโซม

แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
  1. การเปลี่ยนแปลงรูปร่างโครงสร้างภายในของแต่ละโครโมโซม เป็นผลให้เกิดการสับเปลี่ยนตำแหน่งของยีนที่อยู่ในโครโมโซมนั้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นเนื่องจาก
    1. การขาดหายไป (deletion หรือ deficiency) ของส่วนใดส่วนหนึ่งของโครโมโซม ทำให้ยีนขาดหายไปด้วย เช่น กรณีการเกิดโรคของกลุ่มอาการคริดูชาต์ โดยโครโมโซมคู่ที่ 5 เส้นหนึ่ง มีบางส่วนขาดหายไป
    2. การเพิ่มขึ้นมา (duplication) โดยมีส่วนใดส่วนหนึ่งของโครโมโซม เพิ่มขึ้นมามากกว่าที่มีอยู่ปกติ
    3. การเปลี่ยนตำแหน่งทิศทาง (inversion) โดยเกิดการสับเปลี่ยนตำแหน่งของยีนภายในโครโมโซมเดียวกัน เนื่องจากเกิดรอยขาด 2 แห่งบนโครโมโซมนั้น และส่วนที่ขาดนั้นไม่หลุดหายไป แต่กลับต่อเข้ามาใหม่ในโครโมโซมเดิมโดยสลับที่กัน
    4. การเปลี่ยนสลับที่ (translocation) เกิดจากการแลกเปลี่ยนส่วนของโครโมโซมระหว่างโครโมโซมที่ไม่เป็นโฮโมโลกัสกัน
  2. การเปลี่ยนแปลงจำนวนโครโมโซม โดยอาจมีจำนวนโครโมโซมเพิ่มมากขึ้นหรือลดน้อยลงไปจากจำนวนปกติ (ดิปลอยด์ หรือ 2n) เกิดได้ 2 ลักษณะ คือ
    1. แอนยูพลอยดี (aneuploidy) เป็นการเพิ่มหรือลดจำนวนของโครโมโซมเพียงไม่กี่เส้นจากจำนวนปกติ เช่น อาจเป็น 2n ± 1 หรือ n ± 2 การเปลี่ยนแปลงของโครโมโซมแบบนี้ มีความสำคัญทางการแพทย์เป็นอย่างมาก โดยทั่วไปเกิดจากความผิดปกติของคู่โครโมโซมที่ไม่ยอมแยกตัวออกจากกันใน ระหว่างการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส เรียกปรากฏการณ์ที่โครโมโซมไม่แยกออกจากกันนี้ว่า นอนดิสจังชัน (nondisjunction) ความผิดปกติของการมีแอนยูพลอยดีที่เกิดขึ้นในคน เช่น กลุ่มอาการดาวน์ ซึ่งมีโครโมโซม 47 เส้น โดยโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 เส้น กลุ่มอาการไคลน์เฟลเตอร์ (Klinefelter’s Syndrome) มีโครโมโซม 47 เส้น โดยโครโมโซมคู่ที่ 23 มีโครโมโซม X เกินมา 1 เส้น (44 + XXY)
    2. ยูพลอยดี (euploidy) เป็นการเพิ่มหรือลดจำนวนชุดของโครโมโซม (2n ± n หรือ 2n ± 2n) ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเท่าที่พบ เกิดขึ้นในพวกพืช และมีประโยชน์ในทางการเกษตรในแง่การเพิ่มผลผลิต และเป็นกลไกที่จะทำให้เกิดวิวัฒนาการในพืช สำหรับสัตว์เมื่อเกิดแล้วมักจะทำให้เป็นหมัน หรือผลิตเซลล์สืบพันธุ์ที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ

มิ วเทชันของยีน

มิวเทชันของยีน การเปลี่ยนแปลงในระดับยีนนี้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเบส (A, T, C, G) หรือการเปลี่ยนตำแหน่งของลำดับการเรียงตัวของเบสในโมเลกุลของ DNA ซึ่งจะส่งผลสะท้อนไปถึงตำแหน่งการเรียงตัวของกรดอะมิโน ในสายพอลิเปปไทด์ในโมเลกุลของโปรตีนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของยีนนั้นด้วย การเปลี่ยนแปลงของเบสในโมเลกุล DNA ดังกล่าวอาจทำให้ไม่มีการสร้างโปรตีน หรือโปรตีนที่สร้างขึ้นมานั้นเปลี่ยนสมบัติทางเคมีไปจากเดิม หรือหมดสภาพการทำงานไป

การเปลี่ยนแปลงของยีนนั้นมีพื้นฐานมาจากการเปลี่ยนแปลงใน 3 ประการคือ

  1. การขาดหายไป หรือการเพิ่มขึ้นมาของคู่สารประกอบไนโตรจีนัลเบส คือเพียวรินไพริมิดีนในสายของ DNA ทำให้การเรียงลำดับของเบสเปลี่ยนไปจากเดิม และผลที่ติดตามมาคือ รหัสพันธุกรรมผิด หรือคลาดเคลื่อนไป
  2. การเปลี่ยนคู่ของเพียวรินไพริมิดีนในโมเลกุลของ DNA ที่เกิดขึ้นในระหว่างมีการสร้าง DNA ในระยะอินเตอร์เฟส ซึ่งเกิดจากการที่สารเคมีบางชนิดที่มีโครงสร้างคล้ายกับเบสตัวหนึ่งแต่มี สมบัติทางเคมีในเชิงการจับคู่ต่างไปจากเบสตัวนั้น
  3. การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในโมเลกุลของเบสเอง ทำให้สมบัติทางเคมีในเชิงจับคู่ของมันเปลี่ยนไป เช่น เบสอะดีนีน (A) เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปใหม่แล้วก็จะไปจับคู่กับเบสไซโตซีน (C) รูปปกติ แทนที่อะดีนีนจะจับคู่กับไทมีน (T) ตามปกติของมัน

ปัจจัย ที่ทำให้เกิดมิวเทชัน

ตัวกระตุ้นหรือชักนำให้เกิดมิวเทชัน จะเรียกว่าสิ่งก่อกลายพันธุ์ (mutagen) เช่น

  1. รังสี (radiation) รังสีที่กระตุ้นให้เกิดมิวเทชันมี 2 ชนิดคือ
    1. Ionizing Radiation เช่น รังสีบีต้า, รังสีแกมมา, รังสีเอกซ์
    2. Non-Ionizing Radiation เช่น รังสีอุลตร้าไวโอเลต
  2. สารเคมี เช่น สารโคลซิซิน (colchicine) มีผลทำให้มีการเพิ่มจำนวนชุดของโครโมโซม ผลดังกล่าวนี้ทำให้ผลผลิตพืชเพิ่มขึ้น สารไดคลอวอส (dichlovos) ที่ใช้กำจัดแมลงและพาราควอต (paraquat) ที่ใช้กำจัดวัชพืช ก็สามารถทำให้เกิดการผิดปกติของโครโมโซมในคนและสัตว์ได้ สิ่งก่อกลายพันธุ์หรือมิวทาเจนหลายชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง (carcinogen) เช่น สารอะฟลาทอกซิน (aflatoxins) จากเชื้อราบางชนิดทำให้เกิดมะเร็งที่ตับ เป็นต้น
  3. การจัดเรียงเบสในกระบวนการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ (DNA replication) ผิดพลาด มีผลทำให้เกิดการเพิ่มหรือลดจำนวนเบสในคู่สาย และทำให้เกิดการเลื่อน (shift) ของสายDNA

ประเภท ของมิวเทชัน

มิวเทชันเกิดกับเซลล์ในร่างกาย 2 ลักษณะ คือ

  1. เซลล์ร่างกาย (Somatic cell) เซลล์ชนิดนี้เมื่อเกิดมิวเทชันแล้ว จะไม่ถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไป
  2. เซลล์สืบพันธุ์ (Sex cell) เซลล์เหล่านี้เมื่อเกิดมิวเทชันแล้ว จะถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไปได้ ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตมากที่สุด และส่งผลต่อวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตด้วย
เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย http://th.wikipedia.org


Thor ภาพยนต์เรื่องล่าสุดจากมาร์เวล เข้าฉายปลายปี

จากที่ไปชม Ironman 2 กันมาแล้วถ้าได้ดูฉากตอนจบเครดิต ซึ่งเป็นการโยงเข้าสู่เรื่องใหม่อีกเรื่องหนึ่งซึ่งก็คือ Thor เรามารู้จักThor กัน
THE MIGHTY THOR
AVENGER TEAM

ชื่อจริง : THOR
นาม แฝง : โด นัลด์ เบลด, ชีเกิร์ต จาร์ลสัน
อาชีพ ปัจจุบัน : นัก ผจญภัย
อาชีพเดิม : เจ้าชายนักรบแห่งแอสการ์ด
สถาน ที่เกิด : ถ้ำ ในนอร์เวย์ โลกมาร์เวล
สถานะภาพการ สมรส : โสด
ฐาน ปฏิบัติการ : คฤหาสน์ AVENGER นิวยอร์คซิติ้
ปัจจุบันเป็น สมาชิกของกลุ่ม : AVENGER
สูง : 6'6"
หนัก : 640 ปอนด์
ตา : สีฟ้า
ผม : สีบลอนด์
พลังพิเศษ : พลังกาย ความอดทนและความทนทานเหนือมนุษย์
ที่ มาของพลัง : ดิน แดน แอสการ์ด
ความสามารถพิเศษ : เชี่ยว ชาญการต่อสู้ด้วยมือปล่าวและการเหวี่ยงค้อนศึก
อาวุธ : ค้อน วิเศษมเจอร์เนอร์ ซึ่งคงกระพัน สามารถเรียก พายุ ฟ้าผ่า ได้ เดินทางข้ามมิติได้
ปรากฏตัวครั้งแรก : Journey into Mysteries# 83 ปี 1962

สมาชิก Team new Avengers (Secret Avengers)


Ronin(Clint Barton) เขาคือHawkeye ปรามาจารย์การยิงธนู หัวหน้าทีม








Luke Cage แรงเยอะและมวยวัด แต่เก๋าได้ใจสุดๆ















Captain America (Bucky)

















Iron Fist (Daniel Rand) ผู้ใช้ปราณมังกรแห่งเทือกเขาคุณลุ้น















Echo เก่งเหนือมนุษย์อยู่นิดนึง ก็อปปี้การเคลื่นไหวคนอื่นได้ อดีตลูกระจ็อกของDD















Spider-Man (Peter Benjamin Parker)
















Wolverine ( James Howlett ) มิวแทนต์ผู้เป็นอมตะ
















Doctor Strange จอม เวทย์ผู้แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลมาเวล

new Avenger team (กลุ่มนอกกฏหมาย)


กลุ่ม New Avengers ก่อตั้งหลังเกิดขึ้นโดยความคิด ของ Captain America หลังการจราจลที่ The Raftซึ่งเป็นการแหกคุกครั้งใหญ่ของเหล่าร้าย
ซึ่งการจราจลครั้งนี้ ทำให้Captain America เชื่อว่า จำเป็นที่จะต้องมีทีมฮีโร่ทีมใหม่เกิดขึ้น หลังจาก Avengers ยุบทีมไปใน Avengers Disassembled
สมาชิกก่อตั้ง New Avengers ได้แก่ Captain America /Iron Man/ Luke Cage/Spider-Man/SpiderWoman/Wolverine

ต่อมาบทบาททีม New Avengers ได้ถูกลดลงไปในช่วง Civil War เมื่อ ฮีโร่ แบ่งออกเป็นสองฝ่าย
Captain America ได้จัดตั้งทีมฮีโร่ที่ไม่ได้จดทะเบียนฮีโร่ (เป็นขบวนการใต้ดิน) ในนาม Secret Avengers ซึ่งทีมนี้มีอายุได้ไม่นานและถูกยุบไปหลังเหตุการณ์ Civil War จบลง

ต่อมา Tony Stark ได้จัดตั้งกลุ่ม Mighty Avengers ซึ่งเป็นหนึ่งทีมของ 50-State Initiative ดูแลเขตพื้นที่ NewYork ซึ่ง Tony เป็นคนเลือกสมาชิกเอง
ซึ่งสมาชิกก่อตั้งได้แก่ Iron Man/Ms.Marvel/Ares/Wonder Man/Wasp/Black Widow/Sentry
ในระหว่าง New Avengers ได้กลายเป็นกลุ่มฮีโร่ใต้ดิน(ไม่ยอมลงทะเบียน) ต่อสู้กับเหล่าร้ายและหลบหนีการจับกุมจาก Mighty Avengers

ต่อมากลุ่ม Mighty Avengers เกือบแตก หลังจาก Secret Invasion เนื่องจาก Tony Stark ถูกตามล่าในฐานะผู้ต้องหาคนสำคัญ

New Avengers

-Ronin (Clint Barton) - หัวหน้าทีม
-Luke Cage
-Captain America (Bucky)
-Mockingbird
-Ms Marvel
-Spider-Man
-Spider-Woman
-Wolverine

สมาชิก Team Avenger (ต่อ)


Sentry(Robert Reynolds) มนุษย์? ที่มีพลังเทียบเท่าการระเบิดของดวงอาทิตย์1ล้านดวง (สติแตกง่ายโคตร)









Wasp(Janet Van Dyne) ย่อขยายร่างได้อย่างใจนึก

















Spider-Woman(Jessica Drew) อดีตสมาชิกNew Avengers ที่แปรพักมาอยู่Mighty Avengersเพราะเชื่อใจStark!?














Wonder Man(Simon Williams) ดาราและสตั้นแมนชั้นยอด

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สมาชิก Team Avengers











Iron Man(Tony Stark) สมาชิกแรกเริ่มของAvengers ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยS.H.I.E.L.D.












Black Window(Natasha Romanoff) อดีตสายลับรัสเซีย












Ms. Marvel(Carol Danvers) หัวหน้าทีมMighty Avengers












Ace เทพเจ้า แห่งสงครามจากเทือกเขาโอลิมปัส












Steve Roger CaptainAmerica












โดนัลด์ เบลด, ชีเกิร์ต จาร์ลสัน Thor


ไว้ต่อบทความหน้า

Avenger Team

Avengersคือ การรวมตัวของซุปเปอร์ฮีโร่ฝั่งมาเวลเริ่มขึ้นในปี1963 โดยมีสมาชิกแรกเริ่มคือ Ant-Man, Wasp, Thor, Iron Man,Hulk และCapt.Americaเข้าร่วมในตอนที่4 ซึ่งในภายหลังก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกนับครั้งไม่ถ้วน(คิดดูตั้งแต่ปี63 ไม่เปลี่ยนคนอ่านคงเบื่อแย่) มีทั้งมนุษย์ เทพเจ้า เอเลี่ยน(แต่ไม่มีพรีเดียเตอร์) หุ่นยนต์ และมีวลีที่ต้องพูดก่อนลุยทุกครั้งว่า"Avengers Assemble!"(ปัจจุบันMighty Avegersยังพูดอยู่เป็นครั้งคราว) Avegersมีวีรกรรมในอดีตมากมายมากมายแต่ผมไม่เคยอ่าน ขอตัดข้ามมาในยุคปัจจุบันหรือหลังCivil War

ความเปลี่ยนแปลงครั้ง ใหญ่ของAvengers คงหนีไม่พ้นการแยกตัวของทีมในCivil War(อ่านCivil Warได้ในWikiเช่นกัน) ซึ่งทีมนึงนำโดยIron Man และอีกทีมนำโดยCapt.America แม้Civil Warจบลงต่ความขัดแย้งนี้ก็ไม่อาจสมานได้ จนทำให้เกิดAvengers 2ทีม คือMighty Avegers และ New Avengers (ขอเรียกตามชื่อหนังสือแล้วกัน)


Mighty Avengers

X-Men

จุดกำเนิด


เอกซ์เมน หรือ x-เม็นส์ (อังกฤษ: X Men) เป็นชุดหนังสือการ์ตูนของมาร์เวลคอมิคส์สร้าง โดย สแตน ลี และ แจ๊ค เคอร์บี้ ประกอบไปด้วยเรื่องราวของซุป เปอร์ฮีโร่มนุษย์กลายพันธุ์ เริ่มพิมพ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506เป็นต้นมา

จุดสำคัญที่ทำให้เอกซ์เมนแตกต่างจากการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่อื่นๆ นั่นก็คือเรื่องของการต่อต้านมนุษย์กลายพันธุ์ โดยตัวละครมนุษย์กลายพันธุ์ในเรื่องต้องถูกต่อต้านจากกลุ่มมนุษย์ปกติว่า เป็นภัยต่อมนุษย์และจะทำให้สายเลือดของมนุษย์ต้องแปดเปื้อน

ศาสตราจารย์ เอกซ์ (ศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ เซเวียร์) ได้ตั้งขบวนการเอกซ์เมนซึ่งประกอบด้วยเหล่ายอดมนุษย์กลาย พันธุ์สำหรับปกป้องโลกจากความกลัวและความชั่วร้ายของเหล่าผู้ที่เป็น ศัตรูต่อสันติภาพระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์ กับ มนุษย์กลายพันธุ์ ซึ่งมีปฏิปักษ์คนสำคัญคือ แมกนิโต ผู้ที่ก่อตั้งภราดร มนุษย์กลายพันธุ์ผู้ชั่วร้ายซึ่งเป็นกลุ่มที่คอยต่อต้านเหล่ามนุษย์ที่ กดขี่ข่มเหงมนุษย์กลายพันธุ์

อีกหนึ่งตัวละครที่มีบทบาทสำคัญคือ อโปคาลิปส์ ซึ่งเชื่อว่ามนุษย์กลายพันธุ์มีสิทธิในการปกครองเหล่ามนุษย์ธรรมดา เพราะเป็นเผ่าพันธุ์พิเศษที่มีพัฒนาการสูงกว่า

ความนิยมในเอกซ์เมนเป็นอย่างสูงทำให้มาร์เวลเพิ่มตัวละครในกลุ่มยอด มนุษย์กลายพันธุ์ขึ้นเรื่อย ๆ มีมนุษย์กลายพันธุ์ใหม่ ๆ ขึ้นอีกหลายทีม เช่น กลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์ใหม่ หรือ นิวมิวแทนท์ส เอกซ์-แฟกเตอร์ เอ็กคาลิเบอร์ เอกซ์-ฟอร์ส และ เจเนอเรชั่น เอกซ์ อย่างไรก็ตามทุกกลุ่มยกเว้น เอกซ์เม็น เอ็กคาลิเบอร์ และ เอกซ์ฟอร์ส ได้ยุบไปแล้ว

Origin of Marvel Stan Lee (สแตน ลี)

Stan Lee (สแตน ลี)
ชื่ออื่นๆ :
วันเกิด : 28/12/1922
ที่เกิด : นิวยอร์ค United States
ปัจจุบันอยู่ที่ :
ส่วนสูง :






:: ประวัติย่อ ::


สแตน ลีเป็นประธานแห่งโลกของ Marvel Comics ที่ผู้คนนับล้านรู้จักเขาในนามผู้ให้กำเนิด Super Heroes ซึ่งส่งให้ Marvel กลายเป็นเจ้าแห่งอุตสาหกรรมหนังสือการ์ตูน ตัวละครนับร้อยชีวิตที่ขึ้นแท่นตำนาน รวมทั้ง Spider-Man, The Incredible Hulk, The X-Men, The Fantastic Four, Iron Man, Daredevil, The Avengers, ซิลเวอร์เซิรฟเฟอร์ (The Silver Surfer), Thor, และ Dr. Strange ล้วนเกิดขึ้นจากจินตนาการของเขาทั้งสิ้น

ลียังเป็นผู้บริหารงานอำนวยการสร้างภาพยนตร์ของ Columbia เรื่อง Spider-Man, Spider-Man 2, และ Spider-Man 3 ที่กำกับโดยแซม รายมี่ (Sam Raimi) และนำแสดงโดยโทบี้ แม็คไกวร์ (Tobey Maguire) และเคิร์สเต็น ดันส์ (Kirsten Dunst), Ghost Rider ที่กวาดรายได้ทั่วโลกกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ, X-Men: The Last Stand หลังจากที่บริหารงานอำนวยการสร้างสองภาคของ X-Men ก่อนหน้านี้, Hulk, Fantastic Four, Elektra, Daredevil, และ Blade ทั้งสามภาค

ช่วงต้นทศวรรษที่ 60 ลีก็เปิดศักราช “The Marvel Age of Comics” ด้วยการสร้างสรรค์ Super Heroes พันธุ์ใหม่ที่ยังคงโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้อย่าง Captain America, The Human Torch, และ The Sub Mariner ตลอดช่วง 25 ปีแรกที่เขาร่วมงานกับ Marvel ในฐานะบรรณาธิการ, ผู้กำกับศิลป์, และหัวหน้าผู้เขียน เขาสร้างสรรค์หนังสือการ์ตูนราว 2 ถึง 5 เล่มต่อสัปดาห์ ผลงานทั้งหมดของเขารวมกันได้มากกว่าผลงานที่นักเขียนคนใด ๆ เคยตีพิมพ์มา นอกจากนั้นเขายังเขียนบทความตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์, มีบทรายการวิทยุ, โทรทัศน์, และภาพยนตร์อีกหลายเรื่องด้วย

ตอนที่ลีได้ขยับขึ้นมาเป็นผู้จัดพิมพ์ของ Marvel Comics ในปี 1972 หนังสือการ์ตูนของลีขายดีที่สุดของประเ?สเลย ต่อมาในปี 1977 เขาก็เปิดตัว Spider-Man ในหนังสือพิมพ์เป็นการ์ตูนช่อง ๆ หาอ่านได้ทุกวัน ซึ่งเขาก็ต้องเขียนและเป็นบรรณาธิการเองตั้งแต่ต้นจนเนเป็นชิ้นให้ได้อ่าน กัน แล้วก็กลายเป็นผลงานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และปรากฎสู่หน้าหนังสือพิมพ์มากกว่า 500 ฉบับทั่วโลก

ต่อมาในปี 1981 Marvel ก็เปิดบริษัทสร้างผลงานแอนนิเมชั่นที่ West Coast แล้วลีก็ย้ายมายังลอส แองเจลิส (Los Angeles) เพื่อเป็นหัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์ผลงานผจญภัยในโลกภาพยนตร์ให้กับ Marvel เขาเริ่มปรับ Spider-Man และ Hulk ให้เป็นการ์ตูนเช้าวันเสาร์ และปูทางให้ Marvel ก้าวเข้าสู่โลกภาพยนตร์

ลีเพิ่งก่อตั้งบริษัท POW! (Purveyors of Wonder!) Entertainment, Inc. เพื่อสร้างสรรค์และบริหารงานอำนวยการผลิต Stan Lee Presents เป็นดีวีดีชุดซึ่งสามเรื่องแรกที่จะวางแผงในปีนี้ก็มี Mosaic (วางแผงเดือนมกราคม 2007), The Condor (วางแผงเดือนมีนาคม 2007),

และ Ringo ที่ร่วมงานกับ Ringo Starr ผลงานโทรทัศน์ที่ผลิตรายการผ่านบริษัท POW! ของลีก็มี Who Wants To Be a Superhero? ทาง NBC SCI FI ที่เขาบริหารงานอำนวยการสร้างและร่วมแสดงด้วย, Stripperella ที่เขาเป็นผู้สร้างสรรค์และร่วมอำนวยการสร้างเพื่อออกฉายทาง Spike cable channel ก่อนหน้านั้นลีก็บริหารงานอำนวยการผลิต Nick Fury: Agent of S.H.I.E.L.D., The Incredible Hulk, Spider-Man, และ X-Men

ลียังเขียนหนังสือขายอีกอีกหลายสิบเล่ม รวมทั้ง Stan Lee’s Superhero Christmas, The Origins of Marvel Comics, The Best of the Worst, The Silver Surfer, How to Draw Comics the Marvel Way, The Alien Factor, Bring on the Bad Guys, Riftworld, The Superhero Women, และ Excelsior! The Amazing Life of Stan Lee ผลงานอัตชีวประวัติของเขา