Marvel Ultimate Aliance PS2
| |
|
| |
|
ทอกซิน (อังกฤษ: Toxin) หรือ แพทริก มัลลิแกน (อังกฤษ: Patrick Mulligan) เป็นตัวละครที่แต่งขึ้นของมาร์เวล เขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ตัวที่ 3 ของซิมเบี่ยนในซีรี่ยเรื่องสไปเดอร์แมน และปรากฏในหนังสือการ์ตูนเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับดาวเคราะห์ของซิมเบี่ยน
ทอกซินจะคล้ายกับพ่อและปู่ของเขาผสมกัน (คาร์เนจเป็นพ่อ เวนอมเป็นปู่) คาร์เนจเกลียดลูกคนนี้มากเพราะกลัวว่าทอกซินจะแข็งแกร่งกว่าตน คาร์เนจรู้ตัวอยู่แล้วว่าอาจจะให้กำเนิดลูกออกมา จึงคิดจะฆ่าทันทีถ้าลูกเกิดมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถฆ่าทอกซินได้เพราะเวนอมคอยปกป้องหลานของตัวเอง หลังจากคลอดลูกออกมาแล้ว คาร์เนจก็หมดเรี่ยวแรงจากการคลอด เลยไม่สามารถฆ่าลูกที่เกิดมาได้ คาร์เนจจึงนำตัวอ่อนนี้ไปฝังกับแพทริก มัลลิแกน แล้วหนีไป โดยหวังว่าจะได้ฆ่าในคราวหน้า หลังจากที่เขาแข็งแรงดีแล้ว
แพทริก มัลลิแกน เป็นตำรวจแห่งเมืองนิวยอร์ก และเขาก็มีปัญหาต่างๆมากมายมารุมเร้าชีวิตของเขา เช่น งานที่แสนเครียดของเขา เป็นตันช่วงหนึ่งที่เขาออกปฏิบัติการ เขาก็ได้เจอกับคาร์เนจที่คลอดลูกอยู่ คาร์เนจต้องการซ่อนลูกให้ห่างจากเวนอม จึงฝังลูกไว้ที่แพทริก แต่ตอนนั้นทอกซินยังไม่แข็งแรงดีนัก จึงไม่สามารถออกมาเป็นรูปร่างของชุดได้ ด้านเวนอมเองก็หวังที่จะได้เจอหน้าหลานเร็วๆ เพื่อที่จะเอาหลานมาเป็นคู่หู และร่วมกันต่อสู้กับคาร์เนจ
ทางด้านแพทริกยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่นานไปเจ้าซิมเบี่ยนนี้ก็ได้กลายเป็นชุดของแพทริก เขาได้กลายเป็นทอกซินหลังจากที่คาร์เนจกลับมาทำร้ายครอบครัวของแพทริก แพทริกจึงได้ตระหนักถึงความอันตรายของเจ้าซิมเบี่ยนนี้ โดยเวนอมเองก็รู้ดีว่าทอกซินนับวันยิ่งแสดงความโหดร้ายออกมา เวนอมกับคาร์เนจ (ต้องการทำลายอยู่แล้ว) จึงพยายามทำลายเจ้าซิมเบี่ยนนี้หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ มันกลับทำให้ทอกซินแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
สไปเดอร์แมนจึงกลายมาเป็นคน ที่มาช่วยทอกซิน ทอกซินได้พูดคุยกับสไปเดอร์แมนแล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่เกิดขึ้น กับเขา สไปเดอร์แมนได้กล่าวคำที่ลุงเบนเคยพูดกับเขาว่า "พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่มากับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง" ทอกซินได้พยายามบังคับตนเองให้เลิกทำความรุนแรงและทำลายสิ่งต่างๆ (ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก) แล้วเขาก็หนีออกจากการงานและครอบครัวของเขาไปสู่ชีวิตใหม่
ในขณะที่ สไปเดอร์แมน กำลังต่อสู้บนดาวประหลาด (เนื้อเรื่องย่อยภาค Secret Wars) เขาต้องยอมเสียสละเครื่องยิงใยแมงมุมอาวุธหลักของเขาไปในการช่วยเหลือเพื่อน พ้องจากการโดนหินทับที่ Molecule Man ทุ่มใส่ ทำให้ สไปเดอร์แมน ต้องหาอาวุธใหม่มาทดแทน โดยได้ข่าวจากฮีโร่คนอื่นๆมาว่า มีเครื่องยนต์ประหลาดในห้องแลปทดลองใกล้ๆซึ่งสามารถซ่อมชุดของเขาได้ สไปเดอร์แมน จึงเริ่มตามหาเครื่องที่ว่านี้ แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ไปเปิดผิดเครื่อง และปลดปล่อย“สสารเอเลี่ยนประหลาด” หลุดออกมาจากที่กักขัง
ด้วยความประมาทของสไปเดอร์แมน ทำให้สสารเอเลี่ยนนั้นครอบคลุมร่างกายของเขา ทำให้ชุดสไปเดอร์แมนกลายเป็นร่างใหม่สีดำ ซึ่งค้นพบภายหลังว่ามันตอบสนองต่อสมองของเขา ซึ่งสามารถพรางกายให้เป็นชุดคนธรรมดา และสามารถพ่นใยแมงมุมอาวุธหลักได้อย่างไม่จำกัด
พอกลับมาที่โลก สไปเดอร์แมนก็ได้ค้นพบความจริงที่น่าสะพรึงกลัวของชุดใหม่นี้ และพบว่า “มัน” ต้องการจะรวมร่างกับเขา โดยมันเข้าครอบงำร่างของเขาในเวลากลางคืน ในเวลาที่เขาหลับ ออกไปท่องราตรีต่อสู้กับเหล่าอธรรมอย่างโหดเหี้ยม ต่อมาด้วยความช่วยเหลือจาก มิสเตอร์แฟนแทสติก (1 ใน แฟนแทสติก โฟร์) สไปเดอร์แมนจึงแยก “มัน” ออกจากตัวเขาได้ด้วยคลื่นโซนิค ซึ่งสามารถทำร้ายมันได้ แต่มันก็แหกกรงขังออกจากกลุ่ม แฟนแทสติก โฟร์ ได้ในที่สุด มันติดตามและพยายามจะรวมร่างกับ สไปเดอร์แมน อีกครั้งในหอระฆังโบสถ์ ด้วยพลังต่อต้านจากตัว สไปเดอร์แมน และเสียงระฆัง ทำให้มันอ่อนแรงและหนีไป โดยทำท่าเหมือนจะตายแต่ก็หลบหนีไปได้
ในขณะนั้นเอง เอ็ดดี้ บร็อก นักข่าวตกงานผู้มีความแค้นกับสไปเดอร์แมน (เขาเคยเขียนข่าวว่าร้ายผิดคน แล้วสไปเดอร์แมนเปิดโปงคนร้ายตัวจริงได้ ทำให้ นสพ. นั้นกลายเป็นตัวตลก และเอ็ดดี้ก็โดนไล่ออก เย้ยหยันในกลุ่มเพื่อนฝูง ได้งานไร้ศักดิ์ศรีต้องเขียนข่าวนินทาดาราสไตล์ปาปารัซซี่ ทำให้เกิดความแค้นในตัวสไปเดอร์แมนเป็นอย่างมาก) เขาตัดสินใจจะฆ่าตัวตายประชดชีวิต และได้มาที่โบสถ์เพื่อขอโทษต่อพระเจ้าที่เขาไม่สามารถอดทนต่อไปได้อีก
ด้วยความบังเอิญ “มัน” ซึ่งกำลังอ่อนแอ ได้เจอกับ เอ็ดดี้ บร็อก และจู่โจมครอบงำร่างในที่สุด เนื่องจากว่า “มัน” ได้เคยรวมร่างกับ สไปเดอร์แมน มาก่อน ทำให้ความทรงจำยังคงติดค้าง และตอนนี้ เอ็ดดี้ บร็อก ก็ได้รู้จัก “ตัวจริงของสไปเดอร์แมน” ซึ่งทำให้เพลิงแค้นในใจของเอ็ดดี้ ได้เบนเข็มมาใส่ทั้ง ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ และ สไปเดอร์แมน และกลายเป็นศัตรูตัวสำคัญของสไปเดอร์แมนไปในที่สุด
เนื้อเรื่องได้ถูกเปลี่ยนแปลงโดยมาร์เวล เพื่อจะเสริมเรื่องราวของตัวละครให้กับ เวนอม มากขึ้น โดยเอ็ดดี้นั้นเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย และจะตายใน 3 เดือน ซึ่งทำให้เขาตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย (เปลี่ยนจากเนื้อเรื่องเก่าที่โดนไล่ออก กับถูกกดขี่ข่มเหงจากทุกคน)
“มัน” โดยแท้จริงนั้นตกหลุมรักกับ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ในการ์ตูนสไปเดอร์แมน เล่มที่ 371 สไปเดอร์แมนได้ปราบ “มัน” ด้วยการถอดชุดสไปเดอร์แมนออก แล้วเสนอร่างให้ครอบงำ แต่อีกทางนึง ตัวเอ็ดดี้ บร็อก กลับคิดว่า “มัน” ก็เกลียดชังในตัวสไปเดอร์แมนพอๆกับเขา เมื่อยามที่ทั้งสองปะทะกัน “มัน” ได้พยายามอย่างมากที่จะแยกร่างออกจากเอ็ดดี้ เพื่อจะกลับไปรวมร่างกับสไปเดอร์แมนอีกครั้ง
แต่ทว่าการแยกร่างหลัง จากการรวมตัวที่สมบูรณ์นั้นเป็นเรื่องที่ “ทรมาน” มาก ตัวของ เอ็ดดี้ บร็อก นั้นถึงกับช็อคจนสลบ ซึ่งเนื้อเรื่องต่อมา ผู้เขียนตัดสินใจให้ “มัน” สามารถเคลื่อนย้ายร่างตนได้อย่างอิสระ โดยนิสัยของ “มัน” ก็ได้ถูกเปลี่ยนไปด้วยครับ โดยตอนแรกมันรวมร่างกับเอ็ดดี้เพราะความเกลียดชังในตัวสไปเดอร์แมน แต่ในเนื้อเรื่องใหม่ ระบุให้มันกินสาร “อะดรีนาลีน”ในร่างกาย มนุษย์เป็นอาหาร ซึ่งระหว่างครอบงำร่างของเอ็ดดี้นั้นเอง “มัน” ก็ผลิตสารขึ้นมาทำลายโรคมะเร็งจนสิ้น
นอกเหนือจากพลังเหนือมนุษย์อันมหาศาลของ เวนอม และความเกลียดชังที่มีต่อสไปเดอร์แมน เวนอมเองก็พยายามที่จะไม่ทำร้ายผู้ “บริสุทธิ์” ซึ่งเขามักจะพยายามหลีกเลี่ยงที่จะฆ่าผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้อง (ส่วนมากก็คือพวกไทยมุงนั่นเอง) แต่เพราะความ “บ้าคลั่ง” ของมัน ทำให้คำจำกัดความของ “ผู้บริสุทธิ์” บางทีก็ถูกมองข้ามในบางครั้ง
บางครั้ง เวนอม เองก็ผนวกกำลังร่วมต่อสู้กับ สไปเดอร์แมน โดยส่วนมากก็เพื่อต่อกรกับร่างแยกของ “มัน” เอง นั่นก็คือศัตรูที่ร้ายยิ่งกว่า บ้ายิ่งกว่าโหดเหี้ยมยิ่งกว่า มันคือ CARNAGE ซึ่งในเนื้อเรื่องย่อย เวนอม ได้ร่วมต่อสู้กับพวกแอนตี้ฮีโร่ (ฮีโร่ที่ทำตัวไม่เหมือนฮีโร่) เช่นพวก เดอะ พันนิชเชอร์ (The Punisher) หรือ โกสต์ ไรเดอร์ (Ghost Rider)
ในเวลาต่อมา เวนอม ได้ถูกจับกุมและขึ้นศาลและควบคุม “มัน” ไม่ให้หลบหนี แต่ก็หลบหนีออกมาด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มรัฐบาลมืด Black-Ops ซึ่งคณะกรรมการ the Overreach Committee มอบหมายให้ เวนอม ทำงานให้พวกมัน แกมบังคับด้วยการฝังระเบิดไว้ในหน้าอก
หลังจากการต่อสู้ในหน้าที่หลายครั้ง ครั้งหนึ่งมีคำสั่งให้ไปขู่ขวัญ เจ โจนาห์ เจมส์สัน แต่เวนอมกลับทำงานผิดพลาด เพราะเข้าใจผิดว่าให้ฆ่าเจ โจนาห์ เจมส์สัน เนื่องจากพวกสายลับสื่อสารแบบกำกวม และไปฆ่า J. Jonah Jameson เขาเหวี่ยงโจนาห์ตกตึกลงมา แต่ Spiderman ช่วยไว้ได้ เวนอมจึงต่อสู้กับ สไปเดอร์แมน อีกครั้ง (การต่อสู้ครั้งนี้ สำนักพิมพ์บงกชได้ลิขสิทธิ์แปลไทยในชื่อ Spiderman ภาคใหม่ และพิมพ์อยู่ในเล่ม 8 ของเรื่องนี้ หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป) การต่อสู้นี้เกิดขึ้นในเขตก่อสร้างซึ่งสุดท้ายระเบิดติดไฟจำนวนมากบริเวณ นั้นก็เกิดระเบิดขึ้น ทำให้เอ็ดดี้ บร็อก สูญเสียความทรงจำ เวนอมจึงตัวจริงของสไปเดอร์แมนไปด้วย หลังจากนั้น เวนอม ก็ได้ผ่าตัดตัวเองและเอาระเบิดที่ฝังในหน้าอกออก แต่ในขณะที่เขากำลังจะเปิดโปงความชั่วร้ายของกลุ่มรัฐบาลมืดนั้นเอง สารเคมีในร่างกายของเขาก็ประทุ ทำให้เอ็ดดี้และ “มัน” แยกตัวออกจากกันและ “มัน” ก็เหมือนจะ “ตาย” อีกครั้ง
ด้วยความประมาท “มัน” ได้ฟื้นสภาพและออกตามหาตัว เอ็ดดี้ บร็อก เพื่อกลายร่างเป็น เวนอม อีกครั้ง มันได้รวมร่างกับตัวอ่อนของ Cletus Kassady (ซึ่งก็คืออดีต CARNAGE) และเข้าร่วมกับกลุ่ม Sinister Six (ขบวนการวายร้ายที่มีความแค้นต่อสไปเดอร์แมน) แต่ก็ได้สำนึกตนและพยายามฆ่าคนในทีม เวนอม ต่อสู้กับ แซนด์แมน และ อิเล็คโทร และทิ้งไว้ให้ตาย ซึ่งในตอนนั้นเอง เวนอม ก็ได้จับมือญาติดีกับ สไปเดอร์แมน อีกครั้ง แต่ความแค้นก็ยังไม่จบสิ้น ถาโถมขึ้นมาใหม่เมื่อภรรยาของ เอ็ดดี้ บร็อก ฆ่าตัวตาย (ที่แท้จริงแล้วก็เพราะ เอ็ดดี้ แปลงร่างเป็น เวนอม กระโดดไล่ตาม สไปเดอร์แมน ต่อหน้าต่อหน้าต่อตา เธอเลยช็อคกระโดดตึกตาย)
แต่การล้างแค้นก็ไม่ได้ชำระจนได้ เมื่อบุรุษผู้มีพลังลูกครึ่งของมนุษย์/เอเลี่ยน นามว่า “Senator Ward” ได้แยก เอ็ดดี้ บร็อก กับ “มัน” ออกจากกันอีกครั้ง
ร่างโคลนของตัวอ่อน เวนอม ก็ปรากฏกายขึ้น (ซึ่งสร้างขึ้นมาจากการเก็บชิ้นส่วนตัวอ่อน โดยกลุ่มรัฐบาลในการต่อสู้ครั้งก่อนๆ) ซึ่งโคลนนี้สร้างขึ้นโดยกลุ่มเอเลี่ยนที่ทำงานปะปนแอบแฝงอยู่ในรัฐบาล ตัวอ่อนโคลนใหม่นี้แตกต่างกว่าตัวดั้งเดิม โดยมันจะเผาร่างของร่างต้น ฆ่าร่างต้น เนื้อเรื่องตอนนี้เกี่ยวพันกับ วูล์ฟเวอรีน ของ เอกซ์เมน ด้วย เพราะเขาก็โดนมันครอบงำเหมือนกันในช่วงนึง แต่ด้วยพลังรักษาตัวขั้นสุดยอด ทำให้เขารอดมาได้ และก็มีการถือกำเนิด She-เวนอมร่างหญิง นักวิทยาศาสตร์ชื่อ แพทริเซีย โรเบิร์ตสัน แต่รอดมาได้เหมือนกันด้วยพลังแห่ง เอ็ดดี้ บร็อก ก็ได้ผนวกกับภาคโคลนของ เวนอม และมีพลังมากขึ้นจากการเจียระไนของพวกเอเลี่ยน แต่ก็ต้องยอมรวมร่างโดยสมบูรณ์กับ “มัน” อีกครั้งเพราะมันจะช่วยไม่ให้เค้าตายจาก “มะเร็ง”... สไปเดอร์แมนเองก็เกลี้ยกล่อมให้ตัวอ่อนนั้นยอมรวมร่างโดยสมบูรณ์กับเอ็ดดี้ เช่นกัน
หลังจากนั้น เอ็ดดี้ บร็อก เห็นสัจธรรมจากการศึกษาพระธรรม และขายตัวอ่อน เวนอม ให้กับเจ้าพ่อมาเฟีย ดอน ฟอร์ทูนาโต ไปในราคา 100 ล้านเหรียญ ซึ่งจะมอบเงินทั้งหมดให้กับการกุศล ก่อนที่เขาจะจากไปด้วยโรคมะเร็ง
ต่อมา แองเจโล ฟอร์ทูนาโต ลูกชายของดอน ได้กลายเป็น เวนอม ตัวที่สอง แต่ก็ไม่นานนัก ในความเป็นจริง ร่างโคลนนี้กับร่างต้นก็ไม่ถือว่าเป็น เวนอม เพราะเป็นร่างโคลน) ที่ แองเจโล เป็นได้ไม่นานก็เพราะความ “โง่เขลาเบาปัญญาเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ" ของเขา ทำให้ “มัน” ทิ้งร่างต้นระหว่างการกระโดด และทำให้ แองเจโล ตกลงมาตายอนาจ ซึ่งในขณะนั้น เอ็ดดี้ บร็อก ได้ยินข่าวการตายของ แองเจโล ซึ่งเกิดมาจากการแยกร่างออกของตัวอ่อน เอ็ดดี้ บร็อก ตัดสินใจเชือดข้อมือตนเอง แต่ก็ถูกช่วยไว้ได้ และส่งไปโรงพยาบาล... และตัวอ่อน เวนอม ก็กำลัง “คิดถึงบ้านเก่า”
เวน อมมีบทบาทในภาพยนตร์ลำดับที่สามของ ภาพยนตร์ชุดสไปเดอร์แมน โดยในเนื้อเรื่องของภาพยนตร์นี้ สารซิมไบโอตมีผลต่อบุคคลต่างๆ ในเรื่องในลักษณะที่แตกต่างไปจากหนังสือการ์ตูนต้นฉบับ คือไม่มีการแสดงชัดเจนว่าสารซิมไบโอตมีความรู้สึกนึกคิดแต่อย่างใด เพียงแค่เพิ่มความก้าวร้าวของบุคคลที่สิงสู่เท่านั้น ไม่ได้ควบคุม ผู้ที่ถูกสารซิมไบโอตเกาะกินในฉบับภาพยนตร์คือเอ็ดดี้ บร็อก จูเนียร์ (รับบทโดยโทเฟอร์ เกรซ) ซึ่งถูกปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ ช่วงชิงหัวใจของเกวน สเตซี่ไป และแฉต่อหนังสือพิมพ์เดลี่บูเกิ้ลว่าเขาแต่งรูปที่นำมาขายทำข่าว จนมีความเกลียดชังปีเตอร์อย่างมาก เมื่อปีเตอร์ฉีกทำลายชุดดำซิมไบโอต สารซิมไบโอตก็ได้เข้าเกาะกินเอ็ดดี้แทน และเพิ่มพูนความเกลียดชังของเขาจนกลายเป็นเวนอมในที่สุด
ผู้กำกับภาพยนตร์ แซม ไรมี่ ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์บางอย่างของเวนอม เช่น เปลี่ยนสัญลักษณ์รูปแมงมุมบนหน้าอกจากสีขาวเป็นสีเทาเข้มเพื่อแสดงถึงความ มืดของสารซิมไบโอตและออกแบบให้มีลายใยแมงมุมบนตัวอย่างไม่เป็นระเบียบ นอกจากนั้นยังไม่มีมัดกล้ามเนื้อขนาดใหญ่เหมือนในหนังสือการ์ตูนต้นฉบับ อย่างไรก็ดี ใบหน้าของเวนอมยังคงมีลักษณะใกล้เคียงกับต้นแบบ (รวมไปถึงปากที่กว้างกว่าคนปกติอย่างมากด้วย) และยังคงไม่สามารถถูกตรวจจับได้โดยสไปเดอร์เซนส์ของปีเตอร์จึงสามารถโจมตีปี เตอร์ได้โดยเจ้าตัวไม่ทันรู้สึกเช่นกัน รวมทั้งมีพละกำลังเหนือกว่าปีเตอร์อย่างมาก
Carnage ในอดีตเคยเป็นฆาตกรโรคจิตไล่ฆ่าผู้คนไปทั่วนามว่า Cletus Kasady และกลายเป็นสุดยอดอาวุธโรคจิตเดินได้ หลังจากได้รับ “ตัวอ่อน” ที่แบ่งตัวออกมาจาก Venom ( ศัตรูตัวร้ายของ Spiderman ชื่อจริงคือ Eddie Brock ได้รับพลังและกลายร่างเป็น Venom จากสสารประหลาดต่างดาว)
เรื่องเกิดตอนที่ Eddie Brock โดนขังคุกอยู่ และ ตัวอ่อน Venom บุกเข้าไปรวมร่างเพื่อแหกคุก ในระหว่างการแหกคุกนั้นเอง Venom ได้ “คลอด” ตัวอ่อนออกมา และมันก็ได้พบกับร่างต้นที่มีจิตใจแรงกล้าในทางลบ ฆาตกรโรคจิต Cletus Kasady นั่นเอง
เนื้อเรื่องตอนต้นนั้น Carnage เป็นสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้ายโดยแท้ มันคือตัวละครโหดตัวใหม่ ผู้ร้ายตัวใหม่ที่ทาง Marvel ออกแบบมาเพื่อทดแทน Venom ซึ่งตอนนั้นกำลังเริ่มเบนมาทางฝ่ายฮีโร่ (Venom เริ่มร่วมมือกับพวกฮีโร่ เริ่มร่วมมือกับ Spiderman - กลายเป็น Anti-Hero)
อดีตของ Kasady นั้นไม่ชัดเจน Kasady เล่าว่าเขาได้ฆ่าพ่อของตัวเอง ซึ่งเป็นคนฆ่าแม่ของเขา ในขณะที่แม่เขากำลังพยายามฆ่าก่อน แต่ขณะที่เขาเล่า เขาก็ไม่แน่ใจนักว่าเรื่องราวเรียงลำดับยังไง(อย่างไรก็ตาม Kasady ก็มีจิตใจคิดถึงแม่ของเขา ในการ์ตูนภาค Maximum Carnage เขาได้ขุดศพของแม่ตัวเองขึ้นมา – เขายังเล่าเรื่องที่เขาเป็นคนฆ่ายายของตัวเองในวัยเด็กอีกด้วย โดยเขาผลักยายบินถลาตกบันได Kasady ในวัยเด็กยังทรมาณสัตว์อีกด้วย รวมไปถึงหมาของตัวเอง อาการที่เขาชอบแต่งเรื่องในอดีตขึ้นมา รวมถึงบุคลิกที่ระห่ำนี้ทำให้แฟนๆเปรียบเทียบเขากับตัวละครของ DC COMICS พ่อ JOKER ศัตรูของ Batman
ในภายหลัง Kasady ได้รวมร่างแยกร่างไปมากับ “ตัวอ่อน” หลายครั้ง เนื่องจากตัวอ่อน Carnage นั้นโหยหาพลังที่แข็งแกร่ง หากพบว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้ามีพลังที่กล้าแกร่งกว่าร่างต้นคนปัจจุบัน มันก็จะย้ายร่างทันที
ซึ่งมันเคยพยายามจะรวมร่างกับ “ร่างโคลน”ของ Spiderman นามว่า Ben Reilly อีกด้วย – ซึ่งในตอนนั้นเกิดเหตุการณ์สับสนว่า “ใครคือ Spiderman ตัวจริงเกิดขึ้น Ben Reilly ซึ่งคิดว่าตนเองก็ตัวจริง จึงท่องไปมาในชุด Spiderman – ซึ่งเมื่อได้รวมร่างกลายเป็น Spider-Carnage – (ที่โดนรวมร่างง่ายดายเพราะ Ben ไม่เคยมีประสบการณ์ต่อสู้กับพวก “ตัวอ่อน” มาเหมือน Peter Parker ลางสังหรณ์ของ Spiderman จะไม่มีผลต่อพลังของพวกตัวอ่อน - หลังจากที่รวมร่างกลายเป็น Spider-Carnage แล้ว ตัวอ่อนก็สั่งให้ Ben ไปฆ่า Peter Parker ซึ่งตอนนั้นไร้พลังอยู่ – สุดท้ายก็หยุดยั้งไว้ได้ด้วยพลังแห่งวิทยาศาสตร์ของสถาบัน Ravencroft ซึ่งกักขัง Cletus Kasady เอาไว้) หลังจากนั้นก็พยายามรวมร่างกับ Silver Surfer นักผจญภัยแห่งอวกาศบนกระดานโต้คลื่นสีเงิน
Venom กับ Carnage ปะทะกันหลังจากที่ Carnage คลอดลูกออกมา นามว่า “TOXIN” ซึ่งรวมร่างกับตำรวจสุดห้าวชื่อ Patrick Mulligan --- ที่ต้องซัดกันเพราะว่า Carnage จงเกลียดจงชังลูกตัวเองมาก ระหว่างที่จะแบ่งร่าง Carnage ก็พยายามฆ่าตัวอ่อนซะ แต่ก็ไม่สำเร็จ ทั้งนี้เพราะ Carnage กลัวว่าตัวอ่อนใหม่จะแข็งแกร่งกว่าตน
ในทางกลับกัน Venom กลับรู้สึกรักใคร่ “หลาน” ของตัวเองนี้อย่างมาก รักจนต้องปกป้อง (และ Venom เป็นคนตั้งชื่อให้กับ Toxin ด้วย) ส่วนร่างต้นของ Toxin นายตำรวจผู้เคร่งเครียดก็พยายามฝืนความชั่วร้ายของตัวอ่อน และฝักใฝ่ที่จะผดุงคุณธรรม และกลายเป็น Anti-Hero ไปอีกคน (เพราะแบบนี้ด้วย ทำให้ Carnage ยิ่งจงเกลียดจงชัง Toxin เอามากๆ)
หลังจากนั้น Venom ได้เอาชนะและดูดเอาตัวอ่อน Carnage เข้าร่างประสานพลังปิดผนึกมันไว้ตลอดกาล – เมื่อ Kasady ขาดพลังของ Carnage ไปแล้ว ไอ้โรคจิตมันก็ยังไม่ยอมเลิกรา แต่งชุดแดงไล่ฆ่าผู้คนไปเรื่องเปื่อย (แต่ตอนนี้เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น) แต่ความชั่วร้ายก็ยังไม่ยอมจบสิ้น Kasady ได้พบกับ “ตัวอ่อน” ที่มีพลังเหมือน Carnage ในดินแดน Negative Zone (ดินแดนที่เหมือนโลกขนานต่างมิติ) แต่เพราะเหตุใด “ตัวอ่อน” นี้ถึงมีพลังคล้ายคลึงกับ Carnage - มันมาจากไหน – ทาง Marvel ยังเก็บไว้เป็นปริศนา
ณ คุกที่จองจำเหล่าวายร้าย (พวก Supervillains ซุปเปอร์วายร้ายที่ถูกจับได้) Carnage ก็ถูกจองจำอยู่ในนั้นด้วย ในขณะที่เกิดการแหกคุกครั้งใหญ่ Carnage ได้ออกมาทำร้ายซุปเปอร์ฮีโร่ที่พยายามควบคุมสถานการณ์ และก็ถูกสุดยอดฮีโร่ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ Marvel นามว่า the Sentry (ลักษณะเหมือนซุปเปอร์แมนของค่าย Marvel มีพลังมหาศาลเทียบเท่าแรงระเบิดของดวงอาทิตย์ 1 ล้านดวง) เรื่องราวของซุปเปอร์ฮีโร่คนนี้ช่างอาภัพนัก เนื่องจากเขาเป็นคนมีสองบุคลิก อีกบุคลิกหนึ่งของเขาก็คือ the Void ซึ่งเป็นเทพเจ้ามารร้ายที่มีพลังร้ายกาจเกินจินตนาการ ทำให้เขาต้องลบความทรงจำของทุกคนบนโลก รวมถึงตัวเค้าเอง เพื่อสะกดให้มารร้ายในตัวเขาสงบลง
ซึ่งในระหว่างที่เกิดเหตุแหกคุกอยู่นั้น the Sentry (ตัวจริงคือ Reynolds ซึ่งได้ยอมถูกกุมขังฐานฆาตกรรมภรรยาของตัวเอง) ได้กระชาก Carnage ออกมา พาออกไปนอกโลก แล้วกระชากร่างออกเป็นสองท่อน
แต่มีหรือที่ Marvel จะยอมเสียสุดยอดตัวร้ายประหนึ่งเทพเจ้าแห่งความบ้าคลั่งตนนี้ นักวิจารณ์ถกเถียงกันว่า ในตอนที่พ่อ Carnage ถูกกระชากออกเป็นสองส่วนในอวกาศนั้นเป็นเพียง “ตัวอ่อนในสภาพ Carnge ปราศจากร่างต้น Kasady” ดังนั้น Carnage จะกลับมาอย่างแน่นอน